Travel

Emirate Airline รีวิวทริปฮ่องกง นั่งเครื่องบินลำใหญ่ที่สุดในโลก

รีวิวสายการบิน Emirate Airline อีกหนึ่งสายการบินระดับท็อปของโลก และพานั่งเครื่องบินลำใหญ่ที่สุดในโลก ในราคาเบาๆ ชั้น Economy Class ที่ใครๆ ก็นั่งได้!

สวัสดีค่ะทุกคน อยู่ดีๆ พราวก็มีทริปเร่งด่วนไปฮ่องกงค่ะ ชวนกันไปกับเพื่อนคืนนั้น
แล้วก็จองตั๋วเลย บ้าบอมาก~

การจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก

ในครั้งนี้พราวเลือกใช้เว็บเอเจนซี่ประจำอย่าง Traveloka ในการจองแบบ Flight + Hotels เป็นประจำค่ะถ้าไปประเทศใกล้ๆ เพราะรู้สึกว่าสะดวกกว่า
จองทีเดียวครบ คุ้มค่ากว่า รวมถึงมักมีโค้ดโปรโมชัน ส่วนลดเวลาจองแบบนี้ด้วย

ปล.ใครที่จองตั๋วเที่ยวบินกับ Traveloka ในตอนนี้ เขามีบริการ Check in Online ผ่านแอปได้แล้วนะคะ! สะดวกมากกกก เราไม่จำเป็นที่จะต้องไปเช็คอินออนไลน์ผ่านหน้าเว็บไซต์ของสายการบินให้ยุ่งยากแต่สามารถเช็คอินออนไลน์กับ Traveloka ผ่านแอพลิเคชั่น หรือหน้าเว็บได้เลยค่ะ 

*รายละเอียดเพิ่มเติมและสายการบินดูที่นี่นะคะ https://www.traveloka.com/th-th/checkin

การ Check in Online ล่วงหน้า – Traveloka

ซึ่งจะบอกว่าาา ชอบมากกก เพราะการ  Check in Online ล่วงหน้าได้เนี่ยทำให้เรามีเวลาเหลือก่อนขึ้นเครื่อง ยิ่งใครไม่ต้องโหลดกระเป๋า ก็คือไปบอร์ดดิ้งพาส รอบินได้สวยๆ เลยจ้า ประหยัดเวลามากๆ ใครต้องการจองตั๋วเครื่องบินของสายการบิน Emirate Airline ผ่าน Traveloka สามารถเช็คราคาและจองได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/flight/airline/emirates ได้เลยนะคะ

บินฮ่องกง ต้อง Emirate Airline

ส่วนทริปฮ่องกงนี้ อย่างที่บอกค่ะ…ไปฮ่องกงทั้งที ก็ต้องบิน Emirates สิคะ! สายการบินในฝันที่มีรูทใกล้สุดคือไปฮ่องกงจ้าาา ก็คือคุ้มมากกกก  (ไม่มาฮ่องกง อยากนั่งเอมิเรตก็คือต้องไปดูไบเลยนาจา) เราเลยจะมารีวิวสายการบินแบบคร่าวๆ ฉบับ Economy Class กันนะคะ 🙂

สำหรับสายการบิน  Emirate Airline ถือว่าเป็นสายการบิน 5 ดาวลำดับต้นๆ ของโลก ที่ไม่เฉพาะคนท่องเที่ยวอยากนั่งเท่านั้น แต่สาวๆ เหล่าแอร์โฮสเตสก็อยากไปประจำการอีกด้วย! เค้าเป็นสายที่คูลๆ มากเน้ออ โดยที่สายการบินนี้ เป็นสายการบินประจำชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจัดเป็นสายการบินระหว่างประเทศระดับเวิร์ลคลาส โดยมีฐานบินหลักที่กรุงอาบูดาบีและเมืองดูไบ บินไปกว่า 150 จุดหมายปลายทางทั่วโลกเลยค่ะ

เครื่องบินโดยสารลำใหญ่ที่สุดในโลก AIRBUS A380-800

ขาไปพราวได้นั่งเจ้าซุปเปอร์จัมโบ้ Airbus A380-800 (ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องบินโดยสารลำใหญ่ที่สุดในโลก)  โดยมีพื้นที่บริการ 2 ชั้นค่ะ พราวเลือกนั่งชั้นบน เขามีโซนที่นั่งแบบ 2-4-2 สำหรับ Economy Class ซึ่งพราวเลือกนั่งแบบ 2 คนริมหน้าต่าง ถือว่าเป็นส่วนตัวมากๆ ค่ะ อ๋อ พราวทำการบ้านก่อนไปด้วยนะคะว่าหากชอบดูวิว สำหรับเจ้า Airbus A380-800 ต้องเลี่ยงการนั่งบริเวณปีกเครื่องบินนะคะ เพราะปีกน้องใหญ่มากกก จะบังวิวหมดจนไม่เห็นอะไรเลยค่ะ

*ใครต้องการศึกษาเรื่องแผนผังที่นั่งก่อนบิน สามารถนำเลขรุ่นเครื่องหรือค้นหาจากสายการบิน ไปตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน https://www.seatguru.com นะคะ จะมีผังขึ้นมาว่าอะไรอยู่ตรงไหน และมีแนะนำว่าที่นั่งไหนดี ที่นั่งไหนแย่อีกด้วยค่ะ

บรรยากาศในห้องโดยสาร Emirate Airline

เมื่อขึ้นมาบนห้องโดยสารแล้ว ที่นั่งและบริเวณรอบตัวมีความสะอาดดีเยี่ยม รวมถึงกว้างขวางสมกับมาตรฐานของทางสายการบินนี้ค่ะ โดยจากข้อมูลที่พราวหามาเพิ่มเติมนั้น มี Leg room อยู่ที่ 32-34 นิ้ว และส่วนของเบาะมีความกว้าง 17.5 นิ้ว ซึ่งถือว่านั่งสบายพอสมควรค่ะ

ในส่วนที่นั่งริมหน้าต่างนั้น จะมีช่องสำหรับให้เก็บของอีกด้วยค่ะ ชาวสัมภาระเยอะพะรุงพะรังแบบพราว ถือว่าถูกใจมากค่ะ เพราะสามารถเก็บของได้สะดวก ไม่ต้องก้มไปเก็บใต้ที่นั่ง ให้เกิดความยากลำบากในการหยิบวางหรือรบกวนผู้อื่นค่ะ

ในส่วนของ Inflight Entertainment นั้นถือว่าทำได้ดีเลยค่ะ มีทั้งส่วนของชาแนลหนัง รายการทีวี โชว์ต่างๆ ที่เขาเคลมว่า “Choose from over 4,500 channels of award-winning entertainment” ก็ยังมีเกมส์ที่สามารถถอยจอยมานั่งเล่นกับคนข้างๆ ได้อีกด้วย เรียกว่าเพลินๆ ทีเดียวค่ะ

สำหรับพราวแล้ว หากบินตอนกลางวัน Inflight Entertainment ที่ชอบที่สุด จะเป็นส่วนของ Today’s Flight ที่เป็นกล้อง Live ให้ได้ติดตามค่ะว่าตอนนี้เครื่องเราอยู่ตรงไหนแล้ว บินถึงไหนแล้ว ดูรูทการบิน ความเร็ว ดูภาพจากกล้องทั้ง 3 มุมของเครื่อง (บริเวณหัวเครื่อง ใต้ท้องเครื่อง และหางเครื่อง) ก็เพลินๆ ดีไปอีกแบบค่ะ

USB สำหรับการชาร์ตแบต หัวปลั๊กใดๆ ก็สามารถเสียบพร้อมใช้งานได้เลย ไฟอาจจะเบานิดนึงแต่ก็พอหล่อเลี้ยงชีวิต Smartphone น้อยๆ ของเราได้ค่ะ

Free Wifi Onboard – มีเน็ตให้เล่น

บนเครื่องยังมีบริการ Free Wifi Onboard บนเครื่องบิน ให้เราสามารถ Stay Connected กับเพื่อนๆ ด้านล่างได้อีกด้วยนะคะ 🙂 โดยสามารถเลือกใช้บริการเป็น Free text messaging บนแอปพลิเคชัน WhatsApp, iMessage, Facebook Messenger, Viber Chat หรือ WeChat ได้ 2 ชั่วโมงเต็มๆ หรือว่าจะใช้เน็ต 20MB แบบไม่จำกัดเวลาเพื่อเข้าแอปพลิเคชันอื่นๆ ก็ได้ค่ะ (20 MB เข้าเฟสบุคก็หมดแล้วจ้า)

ลืมแจ้งไปตอนแรกค่ะ บริเวณที่นั่งของเรา จะมีหูฟัง หมอนใบเล็ก รวมถึงผ้าห่มเตรียมวางไว้ให้แล้วจากพี่ๆ แอร์โฮสเตสกันนะคะ หากใครหนาวสามารถขอผ้าห่มเพิ่มได้ค่ะ

สำหรับสายการบิน Emirate นั้น แอร์โฮสเตส หรือลูกเรือ จะมีความเป็นนานาชาติสูงมากค่ะ แต่ทุกคนมีรอยยิ้มในการบริการเสมอ ไม่ว่าจะมาให้เลือกเมนูอาหาร เสิร์ฟอาหาร ขอสิ่งใดเพิ่มหรือต้องการความช่วยเหลือใดๆ ถือว่า Service Mind ดีมาก ประทับใจไม่มีข้อติเลยค่ะ (ที่สำคัญแอร์สวยมากๆ อีกด้วยนะคะ เขินเลย)

อาหารของสายการบิน Emirate Airline

สำหรับอาหารของสายการบิน Emirate นั้น ถือว่าจัดมาเต็มมากค่ะ (ในไฟลท์จะมี 2 เมนู Main Course ให้เราเลือกนะคะ) รสชาติอาหารจะมีความเป็นอาหารแขกเบาๆ มีเครื่องเทศประมาณนึง เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องดื่ม อาหารว่าง และขนมในแบบที่ว่าอิ่มกันทีเดียวตอนลงเครื่องค่ะ

*สำหรับเรื่องของอาหาร หากใครมีข้อจำกัดในการทานหรือแพ้อาหารอะไร เราสามารถเข้าไปเลือกได้ในขั้นตอนการจัดการ Booking ผ่านเว็บไซต์ของ Emirate ได้เลยนะคะ

**สำหรับอาหารของ Economoy Class นั้น สามารถเข้าไปดู Sample Menu ซึ่งจะต่างกันตามระยะเวลาการบินได้ที่ https://www.emirates.com/th/english/experience/dining/economy-class/ เพิ่มเติมนะคะ

สุดท้ายนี้ ส่วนในเรื่องของการกรอกใบ IMMIGRATION หรือใบ ตม. นั้น สำหรับจุดหมายปลายทางฮ่องกง ทางสายการบินก็มีเตรียมไว้ให้เรากรอกบนเครื่อง เพื่อความสะดวกเมื่อเราลงเครื่องแล้วอีกด้วยค่ะ

และเราก็มาถึงฮ่องกงโดยสวัสดิภาพแล้วค่ะ โดยรวมพราวถือว่าประทับใจสายการบิน Emirate Airline ครั้งแรกมากพอสมควรเลย จริงๆ พราวไม่ใช่คนที่บินบ่อยนัก ไม่ได้เป็นกูรูด้านสายการบิน แต่ก็มีความชอบในการได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับแต่ละสายการบินค่ะ (จะพยายามเก็บไปเรื่อยๆ~ ตอนนี้ก็คือกดจองโปร ANA ไปญี่ปุ่นแล้วด้วยจ้า) รีวิวนี้อาจจะไม่ได้ละเอียดหรือรู้ลึกรู้จริงอย่างผู้เชี่ยวชาญ ถือว่าเป็นรีวิวฉบับผู้ใช้ทั่วไปบินจริงมาบอกต่อกันน้า หากมีอะไรผิดพลาดตรงไหน สามารถแจ้งให้แก้ไขได้เลยนะคะ

ปล.ฝากติดตามรีวิวทริปฮ่องกงฉบับเต็มด้วยนะคะ ลงเครื่องแล้วจะไปไหนกันต่อ รอชมได้เลยค่า!

Back To Top