สวัสดีค่าทุกคน~ วันนี้จะพาไปทานของอร่อยๆ ในรูปแบบ Omakase (โอมากาเสะ) กันค่ะ! ถ้าพูดถึงโอมากาเสะล่ะก็ทุกคนต้องนึกถึงอาหารญี่ปุ่น ซูชิหรือใดๆ กันใช่มั้ยคะ? แต่วันนี้แปลกกว่านั้นค่ะ เพราะพราวจะพาทุกคนไปลองทาน ลองชิมโอมากาเสะอาหารกวางตุ้ง-ไต้หวัน! ซึ่งไม่ต้องไปทานไกลถึงไหน ที่ไทยใจกลางเมืองเลยนี่แหละค่ะ จะเป็นอาหารแบบไหน รสชาติอย่างไร มาลองดูรีวิวกันได้ที่ Chai Jia Chai กันเลยค่ะ!
Omakase โอเมกาเสะ คืออะไร?
Omakase หรือ โอมากาเสะ เป็นคำภาษาญี่ปุ่น “お任せ” ซึ่งมีความหมายคือ วิถิอาหารแบบตามใจเชฟ หรือหากเรียกให้คุ้นหูก็คือ Chef’s Table นั่นเองค่ะ เข้าใจง่ายๆ คือ เรากำเงินไปให้เชฟ เลือกว่าจะทานคอร์สไหนกี่คำแค่นั้น ส่วนเมนูที่คุณจะได้ทาน ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในวันนั้นว่าเชฟจะหาอะไรมาได้ และรังสรรค์เมนูแบบไหนให้เราทานจนครบคอร์สนั่นเองค่ะ
โดยโอมากาเสะเนี่ย เป็นรูปแบบที่แพร่หลายในไทยโดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นมากๆ แต่วันนี้ที่พราวจะรีวิวคือคอร์สโอมากาเสะของร้าน Chai Jia Chai (ไชย เจีย ชัย) ซึ่งเป็นร้านอาหารกวางตุ้ง-ไต้หวันเปิดใหม่ โดยมีการเสิร์ฟและบริการแบบโอมากาเสะ หรือตามใจเชฟนั่นเองค่ะ
Chai Jia Chai Restaurant (ไชย เจีย ชัย)
Chai jia chai restaurant เป็นร้านอาหารกวางตุ้ง-ไต้หวัน ที่พึ่งเปิดใหม่ใจกลางเมือง ที่บริเวณสุขุมวิท 31 ค่ะ ร้านจะตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างของ Mona Suite Service Apartment เป็นร้านโปร่งๆ ให้ความรู้สึกสบายๆ โดยที่ผู้ทานแบบเราจะได้สัมผัสรสชาติอาหารระดับมิชลินสตาร์ จากเชฟไชย ผู้มีประสบการณมามากกว่า 23 ปี! โดยเชฟเขามีประสบการณ์ในร้านอาหารทั้งออสเตรเลีย โปแลนด์ เซี่ยงไฮ้ หนานจิง และประเทศไทย เรียกว่าเก๋าเกมมาแน่นอนค่ะ
พราวบอกก่อนเลยว่า พราวเองไม่ได้มีประสบการณ์กับอาหารกวางตุ้ง หรือไต้หวันมากนัก แต่อยากพาคุณพ่อมาทาน เปิดประสบการณ์อาหารใหม่ๆ (ท่านชอบอาหารแนวจีนๆ) ก็เลยเลือกที่ร้านนี้เพราะเห็นว่าเปิดใหม่ เทคนิคการนำเสนอน่าสนใจ และคิดว่าน่าจะได้รับประสบการณ์ดีๆ จากการทานแบบโอมากาเสะ ที่เราจะได้กล้าลอง กล้าชิม ได้ลองทานเมนูใหม่ๆ จากวัตถุดิบที่เชฟจะรังสรรค์ให้เราค่ะ
รายละเอียดคอร์สอาหาร Chai Jia Chai Restaurant
สำหรับที่ร้านนี้ จะมีคอร์สเมนูให้เลือกทั้งหมด 3 ราคา คือ 1,600+/ 2,200+/ 2,800+ ค่ะ โทรมาจองล่วงหน้าเท่านั้น บอกทางร้านได้เลยอยากทานแบบมีงบประมาณไหน ยังไง เดี๋ยวเชฟจัดให้ ซึ่ง…วันที่ไปคือพราวไม่มีข้อมูลเลยค่ะ ไม่รู้อะไรเลยค่ะ นอกจากความมั่นใจที่มีให้กับตัวเชฟ ฮ่าาาา ไปถามวันถึงร้านก็ยังไม่ได้ข้อมูล! อ่ะะะ คืออย่างที่บอกด้วยความเป็นโอมากาเสะ เป็นร้านเปิดใหม่ รีวิวก็ยังน้อย ทำให้วันนี้สิ่งที่จะได้ทานคือ ทราบตอนนำมาเสิร์ฟ และถามเชฟที่หน้างานล้วนๆ เลย พราวเลือกเป็นคอร์สราคา 2,200+ บาทค่ะ ได้ทานประมาณ 10 คอร์ส กลางๆ ดี จะมีเมนูไหนบ้างเรามาดูกันค่ะ 🙂
คอร์สที่ 1-3 – จะเป็น appertizer เรียกน้ำย่อยค่ะ มีทั้งหมด 3 คำก่อนเลยย บอกเลยว่าคอร์สแรกก็ประทับใจแล้วค่ะ อร่อยยย จะมีคำที่เป็นเนื้อปลานวลจันทร์ ทอดแล้วราดซอสสูตรไต้หวัน จะออกเค็มๆ แต่เนื้อปลาแน่นๆ ดีมากค่ะ, กุ่ยช่ายหอยเชลล์ ด้านในจะเป็นผัก มีกลิ่นหอมๆ ของหอย ห่อมาแบบแป้งบางๆ ท็อปด้วยไข่แซลมอนอีก ให้รสแบบวัตถุดิบชัดดีค่ะ และปิดท้ายด้วยฟรัวกราส์ คำแรกมาก็ปังเลย ฟรัวกราส์ชิ้นหนาและเนียนมาก หอมๆ ราดซอส XO มาแบบไม่มากไม่น้อยเกินไป อร่อยค่ะ
คอร์สที่ 4 – จะเป็นหมูอบรมควันค่ะ จานนี้บอกเลยว่าดูทั่วไป แต่รสชาติไม่ทั่วไปเลย อร่อยมากกกกกกก มาเสิร์ฟแบบรมควันเปิดฉุยๆ เนื้อคือแน่น แต่นุ่ม มีความเด้งจากเส้นลายเนื้อหมู กลิ่น รสชาติพอดีไปหมด คำนี้ให้ความรู้สึกของหมูแดงที่ทานแล้วแสงออกปากค่ะ
คอร์สที่ 5 – มาเป็นเนื้อตุ๋นค่ะ (ใครไม่ทานเนื้อแจ้งตอนจองได้เลยนะคะ) แต่ถ้าใครทานบอกเลยว่าจานนี้เด็ดดวงมาก เป็นเนื้อเปื่อยที่แบบ อร่อยง่ะ มันไม่ละลายไปเลยจนไม่มี texture ของเนื้อ กลิ่นหอมของเครื่องเทศยาจีนคือดีย์ค่ะ ชิ้นที่ติดมันเล็กๆ กำลังดีคืออร่อยเลยค่ะ
คอร์สที่ 6 – คอร์สนี้พราวชอบเป็นพิเศษค่ะ เป็นเนื้อปลาหิมะชิ้นโตๆ บนเต้าหู้ที่หอม นุ่ม อร่อยมาก รสชาติจานนี้จะมีความเผ็ดๆ ในแบบหม่าล่า มีความชานิดๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจากอะไร เนื้อปลาสดจริง แน่น ไม่มีก้าง ชิ้นมาใหญ่พอดีคำ ผักกวางตุ้งไต้หวันก็กรอบดีค่ะ
คอร์สที่ 7 – หอยนางรมชุบแป้งทอดราดทรัฟเฟิล อันนี้เสิร์ฟมาสวย พรีเซนท์ดี และอร่อยจริงค่ะ ทรัฟเฟิลก็คือทรัฟเฟิลแบบแท้ๆ ไม่มาแค่น้ำมัน ตัวนี้เสิร์ฟใหม่ๆ ต้องระวังร้อนนิดนึงนะคะ เชฟทอดมากรอบมากกกก หอยต้องตัวใหญ่แค่ไหนถึงทอดมาก็ยังทานเต็มคำอยู่ จานนี้จะมีรสชาติเผ็ดเล็กๆ ในไส้ด้วยค่ะ ตัวแป้งกรอบดีค่ะ คุณพ่อพราวชอบเมนูนี้มากๆ
ระหว่างการทาน เราสามารถเดินไปดูเชฟทำเมนูต่างๆ ให้เราที่ station ได้เลยนะคะ เชฟจะไม่สามารถสื่อสารอังกฤษได้คล่อง แต่มีพี่ๆ ในร้านที่คุยจีนกับเชฟได้ ก็จะแปลให้เรา อธิบายช่วยให้เราในแต่ละคำถามได้ค่ะ
คอร์สที่ 8 – เมนูนี้เป็นซุปเป๋าฮื้อ หอยเชลล์ค่ะ ตัวกลีบๆ ดอกไม้จะเป็นไชเท้า/กะหล่ำใดๆ แล้วเกสรตรงกลางเป็นเนื้อหอยเชลล์อีกที เรื่องข้อมูลด้านอาหารพราวอาจจะไม่แม่นมากนะคะ รู้แต่ว่าอร่อย ไม่อร่อย ฮ่าาา ตัวนี้น้ำซุปจะเป็นใสๆ หอมๆ รสไปทางเค็มนิดๆ ค่ะ ซดได้เพลินๆ
คอร์สที่ 9 -ปิดท้ายเมนูคาว อาหารหลักกันไปที่ข้าวต้มกุ้งล็อบส์เตอร์ค่ะ ฉู่ฉ่าๆ มากกกก เมนูนี้ตอนเชฟมาทำให้ดูคือว้าวกันเลย น้องกุ้งตัวใหญ่เต็มไปหมด! รสชาติก็จะเป็นข้าวต้ม ที่ไม่ไทยซะทีเดียว มีกลิ่นของล็อบส์เตอร์ที่ค่อนข้างเด่น และผักชีหนักมากกก ส่วนตัวพราวไม่ชอบทานผักชีเลย ทำให้ชามนี้แบ่งคุณพ่อทานซะเยอะค่ะ แต่ตัวกุ้งยอมรับเลยค่ะ ว่าสดจริงๆ คุณภาพวัตถุดิบที่นี่คือเกินต้านมากกก
คอร์สที่ 10 – ปิดท้ายกันด้วยเมนูหวานค่ะ เป็นเครปแบบไต้หวัน ด้านในมีไอศกรีม ถั่วลิสง และผักชีเยอะมากๆๆ!! แง อย่างที่บอกว่าพราวไม่ทานผักชีและไม่ได้แจ้งเชฟก่อนในเรื่องนี้ ก็เลยทานไม่ได้มาก ตัวแป้งจะแห้งๆ เพลนๆ หน่อย ไม่หวานเท่าไหร่ ถือว่าล้างปากได้ดีค่ะ
ความรู้สึกหลังทานครบคอร์ส
สำหรับส่วนนี้ จะเป็นความเห็นส่วนตัวของพราวจากการทานคอร์ส Omakase ที่ร้าน ในแบบฉบับของคนชอบทาน แต่อาจจะไม่ใช่กูรูอาหารที่มีประสบการณ์มากขนาดนั้นนะคะ
ด้านรสชาติ – พราวไม่ได้มีประสบการณ์อาหารโซนกวางตุ้ง ไต้หวันเยอะมาก แต่สำหรับที่นี่พราวถือว่าอาหารรสชาติอร่อยเลยค่ะ เป็นความแบบจืด-เค็ม ตามที่ได้ยินมาในชื่อเสียงของอาหารไต้หวัน เขาจะเน้นปรุงรสด้วยเครื่องเทศ ซอสต่างๆ เน้นวัตถุดิบที่ดี ชูรสวัตถุดิบนั้นๆ บางอย่างก็ถูกปากมากน้อยต่างกัน แต่โดยรวมประทับใจในทั้งคอร์สนี้นะคะ
ด้านประสบการณ์ – พราวรู้สึกว่าพราวได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการทานอาหารที่หลากหลายมากขึ้นค่ะ ชอบค่ะ มีโอกาสก็อยากจะมาลองทานอีกนะคะ มันสนุกดีตรงที่ไม่รู้อะไรเลย แล้วก็ได้มาลุ้นว่าจะได้ทานอะไร แบบไหน อย่างไรค่ะ บางครั้งเราเลือกทานอาหารตามเมนูที่คุ้นชื่อ วัตถุดิบที่เคยทาน อยู่ใน comfort zone จนอาจจะไม่ได้เปิดโลกใหม่ๆ สักทีค่ะ มาทานอะไรแบบนี้บ้างก็จะได้ว้าว เติม experience กันไปทีละนิดๆ
ด้านวัตถุดิบ – วัตถุดิบพราวให้ 10/10 เลยค่ะ ไม่มีจุดไหนที่ติได้เลยสำหรับวัตถุดิบที่เชฟไชยเลือกมา สด ดี เด้ง แน่น ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเนื้อสัตว์ ผัก หรืออะไร พราวให้คะแนนเต็มค่ะ ใครสายอยากทานวัตถุดิบดีๆ แปลกๆ ต้องมาลองค่ะ เพราะเราเลือกไม่ได้ด้วยว่าอยากทานอะไรแบบไหน อะไรที่ไม่กล้าทาน ไม่เคยสั่งทาน ก็จะได้ลองทานค่ะ
ด้านการนำเสนอ – แต่ละเมนูนำเสนอมาได้น่าสนใจในระดับนึงค่ะ แต่สำหรับพราวยังไม่ถึงกับว้าวเท่าไหร่นัก อาจจะเพราะส่วนนึงเชฟไม่สามารถสื่อสารภาษาไทย/อังกฤษได้คล่องด้วย ทำให้บางอย่างพอเชฟไม่ได้อธิบายด้วยตนเอง ว่าทำไมเลือกเมนูนี้มา คืออะไร ทำยังไงแบบชัดๆ จะทำให้เสน่ห์ของส่วนนี้ หรือ passion ในแต่ละคอร์สน้อยลงไปค่ะ แต่ถ้าในแง่ของความสวยงาม photogenic ก็ตามภาพเลยค่ะ สวยใช้ได้เลยค่ะ
ด้านความคุ้มค่า – ในราคา 2,200+ พราวให้ความคุ้มค่าในระดับปานกลางค่ะ ก็คือไม่ใช่ไม่คุ้มแบบ แพงงง แต่ไม่ได้คุ้มค่าแบบ ถูกมากแกกรรรร ถูกเว่อร์มาก ถูกและดี พราวมองว่าคอร์สของที่นี่เป็นราคาที่สมน้ำสมเนื้อค่ะ ด้วยวัตถุดิบที่ดีและมีคุณภาพ รวมถึงได้ทานอาหารที่หลากหลายโดยไม่ต้องมาหลายๆ คน สั่งหลายๆ อย่าง โอเคค่ะ
ด้านสถานที่ – หากใครชอบทานโอมากาเสะหรือร้านอาหารแบบที่ตกแต่งหรูๆ อาจจะไม่ถูกใจกับร้านนี้เท่าไหร่นักค่ะ ร้านเค้าจะอารมณ์แต่งสบายๆ ชิลๆ บรรยากาศเหมือนทานร้านอาหารใต้คอนโด ซึ่งพราวชอบนะคะ ไม่มีความรู้สึกเกร็งหรือทำตัวไม่ถูกเลยเวลาจะเข้ามาทานที่ร้าน รู้สึกว่าได้โฟกัสที่อาหารแบบจริงๆ ค่ะ
พิกัด Chai Jia Chai Restuarant
หากใครสนใจมาทานโอมากาเสะ เปิดประสบการณ์อาหารกวางตุ้ง ไต้หวันแบบ Chef’s table ด้วยกัน สามารถจองและเข้ามารับประทานได้ที่ Chai Jia Chai @Mona Suite Service Apartment – Sukhumvit31
google maps : https://g.page/MonaSuite?share
ต้องโทรจองก่อนเท่านั้นนะคะ มีให้เลือกทาน 2 รอบคือ 11.00 – 14.00 / 17.00 – 23.00 ค่ะ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจของร้านได้เลยนะคะ
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://26journey.com/
