Healthy Lifestyle

รีวิว Bangkok Float Center – ลอยเหมือนนอนในทะเลสาปเดดซี

ฉันจะพาเธอลอย~ ล่องไปในอวกาศ เพลงนี้เหมาะกับรีวิวนี้จริงๆ ค่ะทุกคน สวัสดีกันอีกรอบ ก่อนพราวจะพาไปชมรีวิวการ Floating (การลอยตัว) ที่ Bangkok Float Center ค่ะวันนี้ 🙂 รีวิวนี้ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ลองอะไรใหม่ๆ ของพราวในวงการ Therapy เลยค่ะ การลอยตัวหรือการ Float คืออะไร? ดียังไง? รู้สึกแบบไหน? สามารถอ่านรีวิวนี้ที่พราวรวบรวมข้อมูลไว้ให้ได้เลยค่ะ

Floating หรือการลอยตัว คืออะไร?

สำหรับการลอยตัว หรือ Floating นั้น ในความหมายของ Bangkok Float Center คือการทำวารีบำบัด หรือถือว่าเป็นสปาส่วนตัวรูปแบบหนึ่งค่ะ โดยภายใน Float Tank ที่เราเข้าไปลอยตัวนี้นี้ จะบรรจุน้ำเกลือ Epsom ที่ลึกประมาณ 10 นิ้ว ซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบของแร่ธาตุแมกนีเซียมซัลเฟตเพียงอย่างเดียว โดยเกลือซัลเฟตที่เราใช้เป็นเกลือที่ใช้ในทางการแพทย์ เพื่อช่วยดีทอกซ์และบำบัดรักษาร่างกายต่างๆ คุณประโยชน์สามารถดูดซึมทางผิวหนังได้ โดยความเข้มข้นของเกลือก็คือเทียบเท่าในทะเลสาปเดดซี (Dead Sea) ที่จะทำให้เราลอยตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่มีทางจมค่ะ

ใน Float Tank นั้น น้ำจะถูกควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับเดียวกับร่างกาย ~35-36 องศาค่ะ ซึ่งพอเราลงไปลอยจริงๆ แล้ว ก็จะเป็นสัมผัสที่แปลกใหม่มากๆ แบบเหมือนอยู่ในอีกห้วงนึง ไม่เหมือนอยู่บนน้ำซะทีเดียว เพราะน้ำเข้มข้นมากๆ รวมถึงอุณหภูมิใกล้เคียงร่างกายเรา ร่างกายก็จะผ่อนจากพันธนาการใดๆ ปิดฝา Float Tank ปิดไฟ ก็ตัดประสาทสัมผัสทั้งหมด ให้เราได้มีสมาธิ นิ่งสงบ มีสติอยู่กับตัวเรานั่นเองค่ะ

Floating มีประโยชน์อย่างไร?

เท่าที่พราวสืบค้นข้อมูลมาจากเว็บไซต์ รวมถึงสอบถามพี่ที่บริการ ณ สถานที่ ก็จะได้ทราบประโยชน์คร่าวๆ ของการ Float ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น

  • การลดความตึงเครียดจากทั้งร่างกายและจิตใจจากสภาวะไร้น้ำหนัก ทำให้ร่างกาย กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ หากมีการออกกำลังกายหรือเป็นนักกีฬา จะเพิ่มอัตราการสลายกรดแลคติกในกล้ามเนื้อได้
  • เมื่อร่างกายเข้าสู่สภาวะผ่อนคลายทำให้หลั่งฮอร์โมนต่างๆ ที่ดีต่อร่างกายออกมา ทำให้การนอนหลับดีขึ้น ลดความเครียดลง
  • การดูดซึมแร่ธาตุแมกนีเซียมซัลเฟตผ่านทางผิวหนัง ช่วยปรับความดันโลหิตในร่างกาย และอื่นๆ
  • SELF Discovery การที่เราได้เข้าสู่สภาวะตัดประสาทสัมผัส ทั้งการมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น ละอื่นๆ ทำให้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับตัวเองเพื่อฟื้นฟูจิตใจได้

และอื่นๆ อีกมากมายค่ะ พราวเองก็ศึกษาคร่าวๆ ยังไม่ได้รู้ลึกทั้งหมด แต่ใจความง่ายๆ ก็คือการ Floating เปรียบเสมือนการทำสปา หรือ Therapy ในรูปแบบหนึ่งซึ่งเป็นวารีบำบัด ใช้น้ำในการผ่อนคลายและเยียวยาร่างกายเรานั่นเองค่ะ หากใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในการ Float สามารถสืบค้นงานวิจัยต่างๆ หรือสอบถามทางเพจได้เพิ่มเติมเลยนะคะ

Bangkok Floating Center

สถานที่พราวมา Float วันนี้ ก็คือ Bangkok Float Center นั่นเองค่ะ เดินทางได้ง่ายสะดวกติด BTS พระโขนงเลย เขาบริหารและก่อตั้งโดยผู้ที่มี passion ด้านนี้โดยตรง การให้ข้อมูลต่างๆ คือแน่นมาก คุณมุกที่ดูแลพราวแจ้งว่า เจ้าของที่เป็น CEO มา Float นอนหลับข้ามคืน หรืออยู่ทั้งวันได้เป็นประจำค่ะ

บรรยากาศของที่นี่ ก็เหมือนสปาหรือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจทั่วไปค่ะ เงียบ สงบ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ โดยส่วนด้านนอกจะเป็นส่วนลูกค้าที่เตรียมเข้ารับบริการ รับฟังข้อมูล ลงรายละเอียดต่างๆ เปิดเข้ามาด้านในก็จะเป็นโซนห้องส่วนตัวสำหรับการ Float ค่ะ

ก่อนเราจะทำการ Float กัน ก็มากรอกรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ยืนยันในส่วนของสุขภาพ Waiver ต่างๆ และมาเตรียม Pre-Float Brief กันค่ะ พี่ที่ดูแลพราววันนี้ชื่อคุณมุก ให้ข้อมูล คำแนะนำ คำอธิบายได้ดีมากๆ พราวประทับใจในความแน่นของข้อมูลเลย ถามอะไรตอบได้หมด คุณมุกก็จะแนะนำขั้นตอนทั้งหมดให้เราเตรียมตัว ว่าต้องทำอะไรบ้าง แบบไหนอย่างไร ก่อนจะเข้าสู่ Float tank จริงๆ ซึ่งก็ไปอธิบายรายละเอียดการใช้งานอีกรอบค่ะ

หลักๆ การเข้า Float tank เพื่อ Floating เริ่มต้นก็คือ เราจะทำการปิดมือถือให้เป็น Silent Mode ก่อนเลยค่ะ เพื่อตัดโลกภายนอกแล้วเข้าสู่ความสงบของตัวเองอย่างเต็มที่, ใส่ ear plugs เพื่อป้องกันน้ำเข้าหู (จะบอกว่าน้ำเค็มมากกกก ถ้าปล่อยแห้งไม่สะอาดก็คือคราบเกลือขึ้นเลย) ต่อด้วยการอาบน้ำ ชำระร่างกายให้สะอาด ปิดไฟห้อง เข้าสู่ POD และค่อยๆ นอนลงไปค่ะ โดยขั้นตอนส่วนนี้ทางทีมงานจะให้เราประมาณ 5 นาทีเตรียมตัว ก่อนจะเริ่มนับ session ระยะเวลาเมื่อได้ยินเสียงเพลงค่ะ แล้วก็บลาๆ ไล่ไปยันขั้นตอนที่จบ Session และอาบน้ำชำระร่างกายอีกครั้งเป็นอันจบ เมื่อทราบขั้นตอนแล้ว เราไปเริ่ม Float กันดีกว่าค่ะ

ประสบการณ์ Floating ของพราว

ที่ Bangkok Float Center จะเป็นห้อง Private ให้เราในการเข้ารับบริการค่ะ ซึ่งถือว่าดีและเป็นส่วนตัวมากกก รู้สึกสงบและได้พักจริงๆ เข้าไปแล้วที่ตกใจอย่างแรกจะเป็นตัว Float Tank เลยค่ะ ใหญ่มากแม่! ในรูปก็คือรู้ว่าใหญ่เพียงพอให้ลงไปนอนได้เหลือที่ แต่ของจริงใหญ่มากค่ะ ใกล้ๆ รถ ecocar คันนึงได้เลย มีบริเวณที่นั่ง ที่แขวนเสื้อ ส่วนอาบน้ำให้เราได้ทำธุระส่วนตัวใดๆ ก่อนจะลงแช่ค่ะ

คุณมุกก็จะมาแนะนำวิธีการใช้งานเครื่องทั้งหมด รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวก เช่น แผ่นโฟมรองศรีษะ กรณีรู้สึกเมื่อยคอบ่า (อันนี้ช่วยได้มาก) และก็การก้าวลงอย่างไร ปิดเปิด Tank จับตรงไหน ปิด/เปิดไฟ ปุ่ม Emergency กดอย่างไร เป็นต้นค่ะ ซึ่งภาพรวมถือว่าใช้งานง่ายมาก ไม่มีอะไรน่ากังวลค่ะ

พอคุณมุกออกไป พราวก็อาบน้ำให้เรียบร้อยค่ะ ก่อนจะลงน้ำอย่าลืมใส่ Ear Plugs ก่อนด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นจะทำความสะอาดหูค่อนข้างยากเลย

แล้วก็เข้าสู่ความเวิงว้างอันไกลโพ้นเลยค่าทุกคน มันง่ายกว่าที่คิดมาก ไม่มีอะไรน่ากลัวค่ะ ค่อยๆ หย่อนเท้าลงไปแล้วค่อยๆ ดันตัวเองลงไป ด้วยความเข้มข้นของน้ำ เราจะลอยขึ้นมาโดยอัตโนมัติจริงๆ ค่ะ ไม่มีทางจม ว่ายน้ำไม่เป็นใดๆ ก็ไม่จม สัมผัสมันแปลกมากกกก จะว่าลอยตัวในน้ำมันก็ไม่เหมือนปกติเลย คือพราวยังรู้สึกว่าเป็นน้ำนะคะ แต่ไม่ใช่น้ำแบบที่เคยลอยกันแน่นอน เพราะความเข้มข้นของแร่ธาตุต่างกันมาก เป็นสัมผัสที่เป็นการลอยจริงๆ ค่ะ เห็นเค้าว่าเข้มข้นเสมือนการจำลองการลอยในทะเลสาปเดดซีเลย แต่ทำให้เป็นระบบปิดกว่า มีความปลอดภัยมากกว่าค่ะ

ลอยจริง ลอยแบบ ลอยยย ลอยไปเรื่อยๆ โดยที่เพลงช่วงแรกจะเปิดคลอ 10 นาทีให้เราปรับร่างกายค่ะ ซึ่งจริงๆ การลอยต้องถอดเสื้อผ้าให้หมด ให้อยู่ในสภาพ Naked เลยนะคะ จะได้ไม่รู้สึกถึงแรงรัด หรือส่วนของเสื้อผ้าค่ะ อย่างไรก็เป็นห้อง Private อยู่แล้ว ค่อนข้างปลอดภัยทีเดียวค่ะ

นอกจากนั้นใน Tank ด้านหนึ่งจะมีผ้าไว้ให้ซับๆ เผื่อกรณีน้ำจะไหลเข้าตา (แสบมาก ขมมากนะคะ ต้องระวังน้ำโดนหน้าเลย) อีกฝั่งนึงจะเป็นกระบอกฉีดน้ำสะอาดให้เราคลีนหน้าได้กรณีน้ำเข้าตาค่ะ

ทีนี้เมื่อเพลงจบ (หรือไม่ต้องรอเพลงจบก็ได้) เราก็ควรจะปิด Tank ค่ะ สามารถปิดเปิดด้วยตัวเองได้ไม่ยากเลย (แต่ระวังลื่นตอนลุกนิดนึง) ปิด Tank เสร็จก็ตามด้วยการปิดไฟค่ะ ทีนี้แหละเราจะเข้าสู่ห้วงความเวิ้งว้างของจริงแล้ว มืดสนิท เงียบสนิท ไม่เห็นอะไรเลย และสัมผัสที่เราลอยอยู่ก็จะเหมือนอยู่ในความว่างเปล่า ที่เขาว่าเป็นสภาวะเกือบไร้น้ำหนัก หรือไร้แรงโน้มถ่วงเลยนั่นเองค่ะ

สำหรับใครที่กลัวที่แคบ กลัวความมืด อาจจะรู้สึกกังวลก่อนจะมา สำหรับพราวแล้ว พราวและแฟนค่อนข้างกลัวที่แคบค่ะ แบบจะไม่ชอบอยู่และรู้สึกว่าอึดอัด ตอนแรกก็คิดว่ายิ่งมืดด้วยจะยิ่งแพนิคมั้ย แต่พอมาจริงๆ แล้ว ไม่น่ากังวลเลยค่ะ มันชิลกว่าที่คิด จนไม่ได้รู้สึกเลยว่ามืดหรือแคบ เราก็ค่อยๆ ปล่อยใจไป ลอยไปเรื่อยๆ เข้าใจคำว่า Self Discovery เลยจริงๆ ค่ะ เพราะมันตัดสิ่งเร้า สิ่งรบกวน สิ่งกระตุ้นภายนอกทั้งหมด เหลือแค่ตัวเราจริงๆ ค่ะ

สิ่งที่ยากในการ Floating

ที่ยากคือพราวเป็นคนไฮเปอร์ค่ะ จะหยุดนิ่งไม่ได้ พอ Float แล้วว่างเปล่า ช่วงแรกๆ ก็เพลินๆ เรื่อยๆ รู้สึกโอเค แต่พอเวลาเริ่มผ่านไปสักพักก็แอบทำสมาธิไม่ได้ ร้อนใจหน่อยๆ มีเปิดขึ้นมานั่งกดๆ เช็คงานในมือถือแปปนึง แล้วค่อยลงไปใหม่ค่ะ แหะ อยู่เต็มๆ 1 ชั่วโมงว่างๆ ค่อนข้างยากสำหรับคนสมาธิสั้นแบบพราวค่ะ ส่วนกรณีแฟนพราว (และคนอื่นๆ ตามที่คุณมุกบอก) จะหลับค่ะ เวลาเข้าสู่ห้วงความมืด ส่วนมากคนจะสามารถเคลิ้มหลับและพักผ่อนได้แบบเต็มที่ เขาว่ากันว่าหลับระหว่าง Float 1 ชั่วโมงเทียบเท่าการนอนด้านนอก ~4 ชั่วโมงเลยทีเดียวค่ะ

อีกอย่างคือถ้าเราดุกดิ๊กไปมาเยอะ ผมเปียก มีหน้าม้า ลุกๆ ขึ้นมาบ้าง อาจจะทำให้น้ำเกลือไหลเข้าหน้า หรือเกือบโดนตาได้หลายครั้งค่ะ ต้องรักษาผ้าสะอาดด้านขวาและกระบอกฉีดน้ำดีๆ เลย อย่างที่บอกค่ะน้ำเกลือเข้มข้นมากกก จะแสบตาเอาได้ ซึ่งพราวไหลเข้าริมฝีปากไป 1 ครั้ง ไม่เค็มค่ะ แต่ขมมากจริงๆ

อ้อ อีกเรื่องคือพราวเป็น Office Syndrome แบบหนาแน่นมากๆ ทำให้ตอน Float อยู่การจัดท่าช่วงคอบ่าจะแอบตึงค่ะ คือมันช่วยให้คลาย แต่ก็ยังรู้สึกร่างกายพยายามยกคออยู่ตลอด เลยทำให้มีอาการเมื่อยคอบ้างนั่นเองค่ะ

จบ Session การ Float แล้วทำอย่างไรต่อ?

เมื่อเรา Float ครบ Session 1 ชั่วโมง (ซึ่งตรงนี้เลือกได้ ราคาต่างกัน สอบถามที่เพจหรือที่ร้านได้เลยนะคะ) ก่อนหมดเวลา 5 นาทีจะมีเสียงเพลงคลอเบาๆ เพื่อปลุกจากภวังค์ค่ะ หากใครคิดว่าตัวเองตื่นยากก็ไม่ต้องกังวลค่ะ จะมีระบบน้ำวนที่ปลุกให้เราตื่นแน่นอนค่ะ

เมื่อครบเวลา Floating แล้ว เราก็ค่อยๆ เปิดไฟ เปิด​ Tank ลุกขึ้นมา และไปอาบน้ำแต่งตัวได้เลยค่ะ ไม่แนะนำให้นั่งพักก่อนนะคะ ถ้าตัวเราแห้งปุ๊บน้องเกลือเกาะแบบหน้าปื้ดทันที น้ำเค้าเข้มข้นมากจริงๆ ค่ะ

Amenity ของ Bangkok Float Center

ที่ปังปุริเย่อีกอย่างของที่นี่ คือเค้าเตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแลตัวเองให้ครบครันมากค่ะ ง่ายๆ คือมาแต่ตัวได้เลย แชมพู​ ครีมนวด สบู่มีครบ พออาบน้ำออกมาบริเวณส่วนกลางที่แต่งตัว ก็จะมีอุปกรณ์ในการดูแลเตรียมไว้ให้ สำลี คอตตอนบัท คลีนซิ่ง โทนเนอร์ ครีมทาผิวหน้า/กาย เสปรย์เซ็ตผม ออยบำรุงผม และอื่นๆ โดยส่วนมากเป็นสูตรอ่อนโยนค่ะ

แต่หากใครแพ้ง่าย พราวแนะนำว่าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับหน้าพกมาเองจะสบายใจกว่าค่ะ พราวก็เตรียมโฟมล้างหน้ากับพวกโทนเนอร์มาเอง ส่วนอุปกรณ์ผิวกายอื่นๆ ก็ใช้ของที่เขาเตรียมให้ได้เลย ค่อยๆ นั่งไปเพลินๆ แต่งหน้า เป่าผมได้หมดค่ะ

ห้อง Himalayan Pink Salt

เสร็จแล้วมานั่งพัก ผ่อนคลายตัวเองอีกระดับด้วยห้องหิมาลายันค่ะ ที่ผนังจะเป็น Himalayan Pink Salt แท้ๆ เลย เขาเชื่อกันว่าการบำบัดด้วยเกลือหิมาลายัน จะทำให้ร่างกายปลอดโปร่ง ดีต่อระบบหายใจและภูมิคุ้มกันค่ะ

จิบชา ทานขนม นั่งพักผ่อนในไฟสลัวๆ พารู้สึกผ่อนคลายได้ปิดท้ายจริงๆ ค่ะ

ความรู้สึกหลัง Floating ที่ Bangkok Float Center

พราวมองว่าการมา Floating ที่นี่คือประสบการณ์ใหม่เลยค่ะ อย่างที่บอกมันเป็นสัมผัสและความรู้สึกที่แบบ ไม่ลองจะไม่รู้ว่าเป็นยังไงจริงๆ ไอคำว่า Float หรือการลอยตัวเนี่ยยย เป็นสัมผัสที่อธิบายยากที่อยากให้มาลองกันเองค่ะ ด้วยบริการและสถานที่ Bangkok Float Center พรามองว่าจะทำให้เรารู้สึกไม่ยุ่งยากและประทับใจได้ง่ายๆ เลย ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกลัวอะไรเลยค่ะ

ส่วนตัวพราวถ้าถามในแง่ประโยชน์ พราวมองว่า ณ ขณะที่ Float อยู่ ร่างกายเราได้ผ่อนคลายและมีสมาธิจริงๆ ค่ะ มันผ่อนคลายไปเลย ตรงส่วนที่ตึง คอบ่าไหล่คือเหมือนได้แผ่ออกมา มันบอกไม่ถูกก แต่สบายตัวขึ้นจริงค่ะ ถ้าพราวสามารถสงบและมีสมาธิกับมันได้ยาวๆ ทั้ง Session น่าดีกว่านี้อีกค่ะ โดยรวมถือว่าชอบเลยนะคะ

การ Float เป็นวารีบำบัดในรูปแบบที่ไม่เหมือนการผ่อนคลายแบบสปา การนวดใดๆ ค่ะ ความรู้สึกคือแตกต่าง ไม่เหมือน แต่ก็เป็นอีกศาสตร์นึงที่น่าสนใจพอสมควรค่ะ พราวมองว่าเห็นผลครั้งแรกจริงในแง่ความรู้สึก การผ่อนคลายช่วงสั้นๆ (คืนนั้นพราวหลับดีขึ้น) แต่ในแง่ประโยชน์ลึกๆ ต้องทำต่อเนื่องกันค่ะ เหมือนทุกอย่างเนอะ ครั้งแรกก็จะช่วยได้ระดับนึง ถ้าอยากดีขึ้นก็ต้องหมั่นทำต่อเนื่องกันยาวๆ พราวคิดว่าการ Float ก็เหมือนกันค่ะ

สนใจ Floating ที่ Bangkok Float Center

หากใครสนใจมาลอยตัว Float ที่ Bangkok Float Center สามารถศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากทั้งเว็บไซต์ https://www.bangkokfloatcenter.com หรือ FB Fanpage/IG : https://www.facebook.com/bangkokfloatcenter ได้เลยนะคะ ช่วงนี้มีโปรโมชันลดราคา 40% ด้วยค่ะ สอบถามโปรหรือแพ็คเกจกันได้เลยค่ะ ^^ ราคาปกติจะตกอยู่ที่ครั้งละ ~2,000 บาทค่า

การเดินทางได้ง่าย ติด BTS พระโขนงค่ะ สถานที่อยู่ในโรงแรม Hopeland มีที่จอดรถคับผม

Back To Top