Travel

รีวิวสายการบิน ANA – All Nippon Airways ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น

ANA-review

รีวิวสายการบินญี่ปุ่น ที่น่าประทับใจสุดๆ สำหรับเจแปนทริปครั้งนี้~ สวัสดีค่ะทุกคน หลังจากจบทริปญี่ปุ่นที่ผ่านมา วันนี้พราวจะมารีวิวการใช้บริการสายการบิน All Nippon Airways หรือที่ทุกคนเรียกกันติดปากสั้นๆ ว่า ANA นั่นเองค่ะ

All Nippon Airways (ANA)

All Nippon Airways เป็นสายการบินมหาชนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ที่มีเส้นทางโดยสารมายังกรุงเทพ ประเทศไทยจากโตเกียว ทั้งจากสนามบินนาริตะ (NRT) และฮาเนดะ (HND) โดยที่ ANA นั้น เป็นสายการบินในเครือ Star Alliance ที่สามารถสะสมไมล์ร่วมกับสายการบินแห่งชาติของเราอย่าง “การบินไทย Thai Airways” ได้ รวมถึงมักมีการบินร่วมหรือ Code Share กันในบางไฟลท์อีกด้วย

สำหรับไฟลท์บินที่พราวเดินทางล่าสุด คือ NH878 (BKK-HND) จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพไปสู่ท่าอากาศยานฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
Flight : NH878
Route : BKK-HND
Departure time : 03:15PM
Arrival Time : 11:00PM
Flight Duration : 5hr 45mins
Aircraft : Boeing 787-9 Dreamliner (ณ วันที่พราวเดินทาง 6 กุมภาพันธ์ 2020) ค่ะ

การเลือก Flight Time ที่เหมาะสม

สำหรับไฟลท์ที่เริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพบ่าย 3 โมงนั้น สำหรับพราวถือว่าดีในแง่ของการไม่ต้องรีบเร่งเกินไปค่ะ สามารถออกจากบ้านได้อย่างสบาย ไม่เช้าเกิน ได้นอนพักเพียงพอก่อนวันเดินทาง แต่ข้อเสียคือ จะถึงญี่ปุ่นช่วงประมาณสี่ห้าทุ่มเลย ก็คือหมดไป 1 วันแล้ว ไม่สามารถเที่ยวต่อได้เลย ต้องเสียค่าที่พักอีก รวมถึงเป็นเวลาที่รถไฟ รถบัสจะเริ่มหมดทำให้การเดินทางเข้าโรงแรมเป็นไปได้ยาก เพราะแท็กซี่ญี่ปุ่นก็ราคาค่อนข้างสูงค่ะ

ดังนั้นในคืนแรกพราวแนะนำให้หาโรงแรมใกล้สนามบินที่มีรถ Shuttle Bus รับส่งจะสะดวกกว่า โดยทริปนี้ของพราวเลือกพักโรงแรม Hen na Hotel Haneda ที่มี Shuttle Bus รับส่งฟรี โดยจะกล่าวถึงในรีวิวถัดไปนะคะ

ปล.จากที่พูดถึงเรื่องเวลามา พราวจึงแนะนำว่าให้บินไฟลท์ที่ออกจากกรุงเทพช่วงเช้า และถึงโตเกียวสักช่วงบ่าย เย็น หัวค่ำน่าจะดีกว่าค่ะ 🙂

การ Check-in และ Boarding

สำหรับการ Check-in และ Boarding ของทาง ANA นั้น ถือว่าไม่วุ่นวายและเป็นสัดส่วนมากค่ะ ใช้เวลาในการเช็คอิน โหลดกระเป๋าไม่นาน ทางกราวด์บริการดีมากตามมาตรฐานสายการบินญี่ปุ่น ไม่นานนักเราก็ได้ขึ้นเครื่องมาแล้ว พราวเลือกที่นั่ง 35K และของแฟน 35J (Window seat และ Middle Seat) สำหรับวันนี้ เนื่องจากไปดูที่นั่งในเว็บไซต์ Seatguru มาแล้วว่าจะเป็นจุดที่โอเค รวมถึงถ่ายภาพปีกเครื่องบินได้สวยค่ะ

สำหรับใครที่ไม่มั่นใจเวลาเลือกที่นั่งบนเครื่อง พราวแนะนำให้ศึกษาแผนผังของเครื่องที่เราทำการบินก่อนค่ะ สามารถนำเลขรุ่นเครื่องหรือค้นหาจากทางสายการบิน ไปตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน https://www.seatguru.com นะคะ จะมีผังขึ้นมาว่าห้องน้ำ จุดไหนอยู่ตรงไหน และมีแนะนำว่าที่นั่งไหนดี ควรนั่ง ที่นั่งไหนแย่ควรเลี่ยงอีกด้วยค่ะ

สำหรับบริเวณที่นั่ง ถือว่ากว้างขวางนั่งสบาย (17.3 นิ้ว)ที่สำคัญคือบริเวณ Pitch Seat/Leg room ค่อนข้างกว้างมากๆค่ะ (34 นิ้ว) มีที่พักเท้าที่ดึงลงมาได้อีกด้วย ขาไปพราวนั่งดูหนังก็คือสบาย ขากลับจะนอนก็ไม่ค่อยเมื่อยสักเท่าไหร่ ไม่อึดอัด สามารถเปลี่ยนพื้นที่ ระดับวางเท้าได้อีกด้วยค่ะ ปล.พราวสูงประมาณ 170cm ค่ะ

บริเวณที่นั่งมีบริการผ้าห่ม หมอน หูฟังให้ตามมาตรฐานค่ะ

Entertainment ในห้องโดยสาร

บริเวณที่นั่งจะมีจอส่วนตัวสำหรับ Entertainment, Information รวมถึงข้อมูล การซื้อสินค้าต่างๆ และมีรีโมทควบคุมที่สามารถถอดมาเป็น Joystick สำหรับการเล่นเกมส์ต่างๆ ได้อีกด้วยค่ะ

ลืมบอกเลยค่ะ วิดิโอสาธิตความปลอดภัยของที่นี่ทำได้น่ารักมากๆ ทำดีมาก ตอนลงจากเครื่องบินเมื่อสิ้นสุดไฟลท์แล้ว มีเบื้องหลังให้ดูอีกด้วย ดีมากเลยค่ะ

สำหรับภาพยนต์ การ์ตูน และรายการของทาง Entertainment Channel นั้นถือว่าเลือกลิสต์รายการมาได้ค่อนข้างดีค่ะ เป็นหนังดัง ฮิตๆ ที่น่าสนใจ แต่อาจจะไม่ได้จำนวนเยอะมากนัก หนังแต่ละเรื่องจะมีลิสต์ว่ามีซับ หรือเสียงภาษาใดบ้าง เราสามารถดูได้จากทางหน้าจอหรือทางเอกสารของเขาได้เลยค่ะ

หรือถ้าใครไม่ได้ดูหนัง เล่นเกมส์ของเขา ก็เสียบสายชาร์จ USB เล่นมือถือของเราได้เลยค่ะ ตัวจ่ายไฟของ USB ที่นี่ค่อนข้างเสถียร ชาร์จขึ้นไว ลงเครื่องแบตเต็มๆ ไปเลยค่ะ

อาหารและเครื่องดื่มบนไฟลท์ของ ANA

เมื่อเครื่องออกสักระยะหนึ่ง ทางลูกเรือก็ได้นำผ้าเช็ดมือและ Snack มาให้ค่ะ โดยแผ่นผับเกี่ยวกับรายละเอียดเที่ยวบิน จะมีแจ้งให้ทราบว่าไฟลท์ไหน จะเริ่มแจกอาหาร ของว่างเวลาไหน กี่นาที กี่ชั่วโมงก่อนลง ตามข้อมูลดังกล่าวค่ะ

เอกสารแผ่นผับจะมีบอกถึงรายการเครื่องดื่มที่เราสั่งได้ด้วยค่ะ พราวเลือกเมนู Recommend มาลอง จะบอกว่าตัวซุปข้าวโพด (CORN SOUP) ของเขาอร่อยมากๆ เป็นซุปร้อนไม่ผสมนมค่ะ ตอนทานต้องระวังร้อนนิดนึง แต่อร่อยมาก ชอบมากๆ ค่ะ

เมื่อถึงเวลาทานอาหาร จะมีเอกสารให้เราเลือกอาหารที่ต้องการตามช่วงเวลาค่ะ ซึ่งอาหารของทาง ANA ถือว่าถูกปากมากกก เป็นรสชาติที่ดี ที่ทานง่าย อร่อยทุกอย่าง แถมยังมีอาหารเครื่องเคียงใดๆ ให้อีกเยอะแยะเลยค่ะ

พราวกับแฟนเลือกทานกันคนละอย่าง แล้วแบ่งๆ กันชิมค่ะ อร่อยทั้งสองเมนูเลย ดีมากกก

ไฮไลท์อีกอย่างคือตัวโซบะเย็นของเขาค่ะ อร่อยมาก! เส้นดีมากกก เป็นเส้นสดที่กลมกล่อมกับตัว Noodle Sauce มาก แนะนำให้ลองนะคะ ห้ามพลาดเลย

สำหรับลูกเรือ (crew) หรือแอร์โฮสเตสที่บริการบนสายการบิน ANA ก็คือ Service Mind ดีงามตามมาตรฐานของสายการบินญี่ปุ่นเลยค่ะ มีความนุ่มนวล ยิ้มแย้ม น่ารัก (ช่วงที่พราวบินเกิดการระบาดของไวรัส COVID-19 อยู่ จึงทำให้ทางลูกเรือต้องใส่หน้ากากอนามัยนะคะ) เสิร์ฟเครื่องดื่มแทบตลอดทั้งไฟลท์ ใครทานแอลกอฮอล์ก็ดื่มได้ยาวๆ เลยค่ะ

ก่อนถึงเวลา Landing ก็ยังมีของว่างมาเสิร์ฟให้อีกค่ะ เป็นครัวซองชิ้นใหญ่ๆ ที่จัดเต็มไส้มาก อร่อยมาก เรียกว่าลงจากเครื่องอิ่มเลย ไม่มีช่วงเว้นให้หิวเลยค่ะ

และที่สำคัญ เกือบทุกสายการบินค่ะ ก่อนเครื่องลงเนอะ ทางลูกเรือก็จะนำใบ Customs Declaration และเอกสารสำหรับชาวต่างชาติให้กรอกเพื่อผ่าน ตม. Immigration โดยไม่ต้องเสียเวลาลงไปกรอกเมื่อถึงสนามบินแล้ว จะได้รวดเร็วค่ะ)

ภาพรวมของสายการบิน ANA สำหรับเรา

สำหรับภาพรวมของสายการบิน All Nippon Airways (ANA) ที่พราวได้เดินทางไปญี่ปุ่นในครั้งนี้ ถือว่าประทับใจมากค่ะ บรรยากาศของการบินสายการบินญี่ปุ่นนั้น ต่างกับของไทยหรือทางตะวันออกประมาณนึงเลย (มันจะมีความนุ่มนวล ต๊ะต่อนยอนมากกว่าค่ะ) อาหารจัดเต็ม ที่นั่งสบาย ถ้าจะมีข้อเสียสักข้อ อาจจะเป็นที่ตัวเลือกของภาพยนต์นั้นน้อยไปนิดนึงสำหรับพราวนั่นเองค่ะ

ปล.พราวไม่ใช่คนที่บินบ่อยนัก ไม่ได้เป็นกูรูด้านสายการบิน แต่ก็มีความชอบในการได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับแต่ละสายการบินค่ะ รีวิวนี้อาจจะไม่ได้ละเอียดหรือรู้ลึกรู้จริงแบบผู้เชี่ยวชาญ ถือว่าเป็นรีวิวฉบับผู้ใช้ทั่วไปบินจริงมาบอกต่อกันน้า หากมีอะไรผิดพลาดตรงไหน สามารถแจ้งให้แก้ไขได้เลยนะคะ

สุดท้ายนี้ พราวจองไฟลท์บินไปกลับ กรุงเทพ-โตเกียว เดินทางด้วยสายการบิน ANA ทริปนี้ในราคาเพียง 12,XXX เท่านั้นค่ะ! ถือว่าเป็นราคาที่ถูกมากกก เนื่องจากรอดูช่วงโปรโมชันของเขาค่ะ (เท่าที่พราวเห็น ราคาปกติจะอยู่ที่ราวๆ ไปกลับ 17-18,XXX บาทในช่วงปกติ) แต่ปีนี้รู้สึกว่าแต่ละสายการบินลดราคาโปรลงมาได้น่าสนใจมาก ถึงแม้จะต้องแลกกับเงื่อนไขตั๋วที่อาจจะไม่ Flexible เท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีปัญหาสำหรับพราวค่ะ

การจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Traveloka

พราวจองตั๋วกับเอเจนซี่ออนไลน์ Traveloka นะคะรอบนี้ ถือว่าสะดวกมาก เมื่อจองเสร็จเรียบร้อยและต้องการสอบถามข้อมูลใดๆ เปลี่ยนแปลงใดๆ ก็สามารถติดต่อผ่านทางแชท กับเจ้าหน้าที่ได้ 24 ชั่วโมงเลย มีการตอบกลับ ประสานงานที่รวดเร็วและดีมากค่ะ สำหรับใครหาไฟลท์บินไปญี่ปุ่น สามารถคลิกลิงก์นี้เพื่อตรวจสอบราคา และไฟลท์ได้เลยค่ะ https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-japan

อ๋อ นอกจากนั้นแล้ว เรายังสามารถนำหมายเลขการจอง ไปจัดการ Booking ตัวเองผ่านเว็บไซต์ของทาง ANA เพื่อเลือกอาหาร เลือกที่นั่ง เช็คอินออนไลน์ใดๆ ได้อย่างสะดวกอีกด้วยค่ะ

แต่จริงๆ ตอนนี้ทาง Traveloka เองก็มีการให้บริการ Check-in Online แล้วเช่นกันค่ะ สำหรับสายการบินที่ให้บริการและข้อมูลต่างๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านลิงก์นี้ได้เลยนะคะ https://www.traveloka.com/th-th/checkin

โดยเมื่อเราเช็คอินออนไลน์ล่วงหน้าไปเนี่ย จะเพิ่มความสะดวกให้กับเรามากกกกกเลยค่ะ ลดเวลาไปได้เยอะ ยังมีเวลาเหลือให้เตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่อง เดินช็อปปิ้ง สบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบค่ะ ยิ่งไม่มีกระเป๋าโหลด ก็คือเข้าไปรอบอร์ดดิ้งได้เลย ดังนั้นไม่ว่าจะบินกับสายการบินไหน พราวแนะนำให้เช็คอินออนไลน์ก่อนไปทุกครั้งนะคะ เป็นการเตรียมตัว เช็ครายละเอียดทุกครั้งก่อนเดินทางอีกด้วยนั่นเองค่ะ

สำหรับรีวิวในวันนี้ ก็ขออนุญาตจบเพียงเท่านี้นะคะ พบกันรีวิวใหม่ครั้งหน้า ขอบคุณค่า 🙂

Back To Top